เมื่อกล่าวถึงความร้อนเรามักจะนึกถึงความร้อนที่พบในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ความร้อนจากดวงอาทิตย์และความร้อนจากการเผาไหม้ มนุษย์ได้ใช้ประโยชน์จากความร้อนดังกล่าว ในการดำรงชีวิตมากมาย เช่นการหุงต้มอาหาร การให้ความอบอุ่นในวันที่อากาศหนาวเย็น การเผาไหม้เพื่อทำให้เครื่องยนต์และเครื่องจักรทำงาน
การศึกษากระบวนการเปลี่ยนแปลงระหว่างความร้อนและพลังงานกล เป็นสาขาหนึ่งในวิชาฟิสิกส์ เรียกว่าอุณหพลศาสตร์ ซึ่งในบทนี้ จะศึกษาอุณหพลศาสตร์ ในขอบเขตที่ครอบคลุม ระบบที่เป็นแก๊สของแข็งและของเหลว โดยเน้นที่การอธิบายความร้อนจากพฤติกรรมของแก๊ส
อุปกรณ์ที่ใช้วัดอุณหภูมิ เรียกว่าเทอร์โมมิเตอร์ เทอร์โมมิเตอร์มีหลายชนิด ส่วนใหญ่ทำงานโดยอาศัยสมบัติของสารที่เปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิ เส้นปริมาตร ความต้านทานไฟฟ้า และสีเป็นต้น
อุณหภูมิในเคลวิน เรียกว่า อุณหภูมิสัมบูรณ์ และที่อุณหภูมิ 0 เคลวิน เรียกว่าศูนย์สัมบูรณ์ อุณหภูมิดังกล่าวถือเป็นอุณหภูมิต่ำที่สุดในทางทฤษฎี ที่เป็นไปได้ของสสาร ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่อนุภาคหยุดการเคลื่อนไหวอย่างสิ้นเชิง
นอกจากอุณหภูมิในเคลวิน มีชื่อเรียกว่า อุณหภูมิสัมบูรณ์แล้ว ยังมีชื่อเรียกว่า อุณหภูมิอุณหพลวัตอีกด้วย
ถ้าให้ T เป็นอุณหภูมิในหน่วยเคลวิน (K) และ t เป็นอุณหภูมิในหน่วยองศาเซลเซียส อุณหภูมิทั้งสองมีความสำคัญดังนี้
ความจุความร้อน (C) คือปริมาณความร้อน ΔQ จูล ที่ทำให้มวลสารมวล m กิโลกรัม
มีอุณหภูมิเปลี่ยนไป 1 เคลวิน มีหน่วยเป็นจูล/เคลวิน
ความจุความร้อนจำเพาะ (c) คือปริมาณความร้อน ΔQ จูล ที่ทำให้มวลสารมวล 1 กิโลกรัม
มีอุณหภูมิเปลี่ยนไป 1 เคลวิน มีหน่วยเป็นจูล/กิโลกรัม.เคลวิน
เมื่อ c คือ ความจุความร้อนจำเพาะของสาร
ΔQ คือ ปริมาณความร้อนที่มวลสารได้รับ
Δt คือ อุณหภูมิของมวลสารที่เปลี่ยนไป
m คือ ปริมาณมวลสาร
ความร้อน ที่ใช้ในการเปลี่ยนสถานะ ของสารมวล 1 หน่วย โดยอุณหภูมิไม่เปลี่ยน เรียกว่า ความร้อนแฝง ซึ่งจะมีความสัมพันธ์กับความร้อนที่ให้กับสารดังสมการ
การถ่ายโอนความร้อนและสมดุลความร้อน
ความร้อนสามารถถ่ายโอนหรือส่งผ่านจากวัตถุที่มีอุณหภูมิสูงกว่าไปสู่ วัตถุที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าได้ เราสามารถอธิบายกระบวนการถ่ายโอนความร้อนได้ดังนี้
การนำความร้อน เป็นการถ่ายโอนความร้อนผ่านตัวนำความร้อนโดยที่โมเลกุลแต่ละโมเลกุลของตัวนำไม่ได้เคลื่อนที่ตามไปด้วย
การพาความร้อน เป็นการถ่ายโอนความร้อนโดยอาศัยการเคลื่อนที่ของโมเลกุลของสสารพาความร้อนจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
การแผ่รังสีความร้อน เป็นการถ่ายโอนความร้อนโดยไม่ต้องอาศัยตัวกลาง การถ่ายโอนความร้อนเกิดขึ้นเมื่อวัตถุ 2 อันที่สามารถถ่ายโอนความร้อนถึงกันและกันได้มีอุณหภูมิแตกต่างกัน
สำหรับสารในสถานะแก๊ส โมเลกุลของแก๊สสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระและฟุ้งกระจายเต็มภาชนะที่บรรจุ ถ้าเปลี่ยนปริมาตรของภาชนะที่ใช้ในการบรรจุแก๊ส แก๊สก็จะมีปริมาตรเปลี่ยนไป ตามปริมาตรของภาชนะที่บรรจุ
แก๊สอุดมคติ คือแก๊สที่มีสมบัติดังต่อไปนี้
เป็นทฤษฎีที่ตั้งขึ้นเพื่อใช้อธิบายกฎ ปรากฏการณ์ หรือผลการทดลองที่เกี่ยวกับแก๊ส และพฤติกรรมของแก๊ส
+ แก๊สที่มีสมบัติเป็นไปตามทฤษฎีจลน์ของแก๊สทุกประการเรียกว่า แก๊สอุดมคติ (Ideal gas) โดยปกติแก๊สทั่วไปจะมีสมบัติเคียงกับแก๊สอุดมคติเท่านั้น
สำหรับแก๊สที่มีอนุภาคขนาดเล็ก เมื่อควบคุมให้อยู่ในภาวะที่มีปริมาตรมาก ความดันต่ำ และอุณหภูมิสูง จะมีสมบัติใกล้เคียงกับแก๊สอุดมคติมากขึ้น
โดยเฉพาะแก๊สเฉื่อยจะมีสมบัติใกล้เคียงกับแก๊สอุดมคติมากจนอาจจัดเป็นแก๊สอุดมคติได้
พลังงานภายในระบบ
พลังงานภายในระบบ คือ ผลรวมของพลังงานจลน์เฉลี่ยทั้งหมดของแก๊สในระบบปิด เขียนแทนด้วยสัญญลักษณ์
“ U ”
การเปลี่ยนแปลงพลังงานภายในระบบ คือ ผลต่างของพลังงานภายในระบบหลังเปลี่ยนแปลง กับพลังงานภายในระบบก่อน เปลี่ยนแปลง เขียนแทนด้วย “U”
ระบบประกอบด้วยสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในขอบเขตที่ต้องการศึกษา เช่น ระบบโมเลกุลของแก๊สจะประกอบด้วยโมเลกุลของแก๊สทุกตัวในภาชนะ พลังงานภายในของระบบคือ พลังงานทั้งหมดของโมเลกุลของแก๊สในระบบ
เทอร์โมไดนามิกส์ (Thermo Dynamics)
คือ การศึกษาที่เกี่ยวกับการถ่ายโอนพลังงานความร้อนและงานที่ระบบกระทำหรือถูกกระทำโดยสิ่งแวดล้อม
ถ้าวัตถุ A และวัตถุ B อยู่ในสมดุลทางความร้อน และวัตถุ A กับวัตถุ C อยู่ในสมดุลทาง
ความร้อนแล้ว วัตถุ B กับวัตถุ C ก็จะอยู่ในสภาวะสมดุลทางความร้อนด้วย กล่าวคือ มีอุณหภูมิเท่ากัน
ความร้อนที่ระบบได้รับเท่ากับพลังงานภายในของระบบที่เพิ่มขึ้นบวกกับงานที่ระบบได้รับจาก สิ่งแวดล้อม
———————————
———————————
———————————
———————————
———————————
Quizizz | rmutphysics | kruseksan | physics |
---|